Program Vitamin & Hormone
- Shine Bright Clinic
- Program บำรุงด้วย Vitamin และปรับสมดุล Hormone

โปรแกรมให้วิตามินบำบัด (IV Therapy)

IV Therapy เหมาะสมกับใคร?
เป็นตัวช่วยของต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วโดย ผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย นอนไม่เป็นเวลา ต้องการความสดชื่นในการทำงาน และผู้ที่ขาดวิตามิน
IV Therapy คืออะไร?
“IV Therapy”
หรือการให้วิตามินบำบัด คือการให้วิตามิน แร่ธาตุ สารสำคัญต่างๆ และสารน้ำ เข้าสู่หลอดเลือดดำ โดยตรงโดยที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้รวดเร็วกว่าและมีประสิทธิภาพดีกว่าการรับประทาน
Shine Bright Clinic มีสูตรอะไรบ้าง
โปรแกรมที่คลินิกมีบริการ
Shine Bright clinic มีสูตร IV Therapy แนะนำบ้าง
- Shine Pink สูตรนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องสีผิวไม่สม่ำเสมอ
- Shine Bright สูตรนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ ต้องการสีผิวที่ความสว่างกระจ่างใสมากขึ้น
- Shine Immune Booster สูตรนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ผู้ที่มีประวัติติดเชื้อไวรัสหรือเป็นหวัดบ่อย ผู้ที่มีปัญหาเป็นภูมิแพ้ง่าย หรือว่าเดินทางบ่อยทำงานไม่เป็นเวลา
ขั้นตอนการ โปรแกรมให้วิตามินบำบัด
ผู้เข้ารับบริการจะได้รับคัดกรองประวัติเบื้องต้น หลังจากนั้นจะเข้าพบแพทย์เพื่อซักประวัติการเจ็บป่วย ประวัติการแพ้ยา ตรวจร่างกายเบื้องต้น และเลือกสูตรวิตามินหรือปรับสูตรให้ตรงกับความต้องการ
*ข้อควรระวังในการดริปวิตามินต้องแจ้งให้ทางแพทย์ทราบ*
- หญิงที่ตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ป่วยภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD
- มีภาวะไตเสื่อมหรือไตวาย
- รู้สึกไม่สบาย มีไข้ หรือมีแผลบริเวณข้อพับ
หลังให้ฮอร์โมนจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
3 เดือน: ในระยะนี้ การเปลี่ยนแปลง จะเริ่มเห็นได้ชัดในเรื่องของผิว หน้าจะมันขึ้น อาจจะมีเรื่องของสิวเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงแนะนำผลิตภัณฑ์ ที่ลดหน้ามัน ลดการเกิดสิว หมั่นดูแลความสะอาดของใบหน้า หากมีสิวขึ้นผิดปกติ ให้รีบแจ้ง อาจจะมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นได้ง่าย จึงแนะนำการออกกำลังกายเพราะฮอร์โมน testosterone จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ช่องคลองมีการตีบแคบลง ต่อมกระสันที่อวัยวะเพศอาจมีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งต่อมกระสันนี้เปรียบเสมือนอวัยวะเพศชาย ประจำเดือนอาจจะเริ่มขาดหายไปในระยะนี้ได้
6 เดือน: ในระยะนี้ จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของ เสียง ที่สากขึ้น ทุ้มขึ้น รูปร่างการสะสมไขมันจะเริ่มเปลี่ยนไป อาจจะมีหนวดเครา ขนที่ดกเส้นหนาขึ้นในระยะนี้
1 ปี: ในระยะนี้ เสียงจะเริ่มเปลี่ยนคงที่ กล้ามเนื้อ รูปร่างจะเปลี่ยนแบบชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ความคาดหวังการเปลี่ยนแปลง หลัง 6 เดือน ถึง 1 ปีขึ้นไป
*ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น ระยะเวลาคาดหลังผล และการรักษาขึ้นอยู่กับบุคคล
ข้อแนะนำเฝ้าระวังหลังการให้ฮอร์โมน
- หากมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง
- เป็นลมหน้ามือ ฝ่ามือฝ่าเท้ามีสีแดงผิดปกติ
- วัดความดัน หลังนั่งพักแล้ว อย่างน้อย 15 นาทีแล้วยังสูงกว่า 160/110 mmHg
- แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก
- แขนขาอ่อนแรง
คำแนะนำการปฎิบัติตัวในการรับฮอร์โมนเพื่อยืนยันสภาพเพศ
- งดสุบบุหรี่
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ควบคุมน้ำหนัก
- หลีกเลี่ยงอาหารและพฤติกรรมที่ส่งเสริมโรคไขมันในเลือดสูง
- หมั่นทำความสะอาดและเลือกผลิตภัณฑ์ที่ลดการเกิด สิว หน้าผิวมัน หากรู้สึกว่าสภาพผิวเปลี่ยนไป
- หากมีอาการผิดปกติให้รีบติดต่อคลินิก หรือ มีภาวะรุนการหายใจผิดปกติให้ไปโรงพยาบาลใกล้ที่สุดพร้อมทั้งแจ้งประวัติการรับฮอร์โมน
- หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามเพื่อให้แน่ใจในการปฎิบัติตัว
คำแนะนำการตรวจคัดกรองมะเร็ง (Cancer screening) transmen
- มะเร็งเต้านม (ในผู้ที่ยังไม่ได้ผ่าตัดเต้านมออก)
- มะเร็งปากมดลูก
- มะเร็งทวาร

โปรแกรมการใช้ฮอร์โมนเพื่อยืนยันสภาพเพศ
Gender-affirming Hormone Therapy (GAHT)
การให้ฮอร์โมนเพื่อยืนยันสภาพเพศ คืออะไร
การใช้ฮอร์โมนเพื่อยืนยันสภาพเพศนั้น กล่าวอย่างง่าย คือการที่เราลดระดับฮอร์โมนเพศที่ไม่ต้องการ (Reduce endogenous sex hormonelevels) และแทนที่ฮอร์โมนเพศที่ต้องการ (Replace endogenous sex hormone levers consistent with the individual’s gender)
ใครที่สามารถเข้ารับบริการได้
ผู้ชายข้ามเพศที่ต้องการเปลี่ยนแปลง รูปร่าง ร่างกาย และได้รับการประเมินจากแพทย์ก่อนเข้ารับการใช้ฮอร์โมน
ใครที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต้องได้รับการประเมินหรือรักษาก่อนรับฮอร์โมน
- ตั้งครรภ์ (Pregnancy)
- ประวัติความดันโลหิตสูง (Severe Hypertension) BP >160/110mmHg
- หยุดหายใจขณะนอนหลับ (Sleep Apnea)
- เม็ดเลือดแดงสูง (Polycythemia) Hct>54%
- โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง
- ภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน หรือลิ่มเลือดที่ปอด
- ไขมันในเลือดสูงรุนแรง LDL>190